วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ดื่มนมวัว มีประโยชน์จริงหรือ

๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๒
ผมได้เข้าไป อ่านบทความต่างๆ ใน Website หลายต่อหลายแห่ง ได้อ่านพบ เรื่องที่เกี่ยวกับนมวัว เครื่องดื่มที่เราดื่มกันเป็นประจำ ในปัจจุบัน หลายบทความ พูดถึงอันตราย ที่แฝงเข้ามา จากการกินนม บางคนเรียกนมว่า “มัจจุราชเงียบ”  และ มีอีกหลายบทความ ที่ตั้งคำถามว่า นมเป็นมิตร หรือ ศัตรูของมนุษย์ เลยทีเดียว ผมคิว่า คงต้องมีอะไรลึกลับ ที่เราน่าจะรับรู้บ้างแน่

ผู้คนในสังคม ก็มีทั้งที่ เชื่อ และ ไม่เชื่อ  หลายคน ก็คัดค้านว่าไม่จริง ที่ไม่เชื่อก็เพราะก็กินกันมานาน กินกันทั้งครอบครัว ไม่เห็นเกิดอะไรขึ้น ใครๆ ก็สนับสนุนให้กิน ทางทีวี โฆษณา ก็กระตุ้นให้ซื้อหามากิน เหมือนเป็นอะไร ที่ขาดไม่ได้ ต้องกิน ไม่กินเหมือนว่าจะเสียโอกาส ในการเจริญเติบโต สำหรับเด็ก และความแข็งแรง สำหรับผู้ใหญ่  หลายเสียง ก็เห็นคล้อยตาม และบอกว่าจะไม่กิน เพราะไม่เห็นความจำเป็นอะไร ไม่กินก็ไม่เสียอะไรเสีย คนโบราณ เคยบอกไว้ว่า จิ้งจกทักยังต้องหยุดคิด นี่คุณหมอ (บางคน) ออกมาเตือน ก็ควรจะลองคิดตามดูบ้างนะครับ ผมว่า จะจริงหรือไม่จริง ผมก็ไม่รู้ได้    ผมคิดเพียงแต่ว่า ถ้ามี คนบอกว่าอาจจะไม่ดี หรือมีปัญหา ก็คงต้องเลี่ยงบ้าง ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องกินครับ กันไว้ก่อนคงจะดีกว่า

ผมแน่ใจว่า นมวัวน่ะ ไม่ใช่สิ่งที่ขาดไม่ได้  มีคนอยู่อีกจำนวนหนึ่ง น่าจะมากด้วย ที่ไม่ได้กินนมวัว แต่ก็ยังอยู่ได้ดี ลองคิดถึงคนต่างจังหวัด ระดับหมู่บ้านเล็กๆ กินข้าวปลาอาหารแบบไทย ข้าว น้ำพริก ปลาเล็ก ปลาน้อย  ผัก ผลไม้ ก็แข็งแรงสมบูรณ์ คนอ้วนก็น้อยมาก แสดงให้เห็นว่า อาหารการกิน แบบพื้นบ้าน แบบไทยๆ ที่ชาวบ้านกินกันอยู่ มีสารอาหารต่างๆ เพียงพอดูแลร่างกายได้ดี ไม่ได้ขาดสารอาหาร จนต้องมีการรณรงค์ ให้ดื่มนมวัวเพิ่มเติม ในบทความนี้ เครื่องดื่มนม  ผมหมายถึง น้ำนมวัว นะครับ

ปัจจุบัน ในหมู่บ้านเหล่านี้ พบว่า มีโรคประเภท ความดันสูง คลอเรสเตอรอลสูง ปรากฏให้เห็น ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมี ผู้รู้บอกว่าน่าจะเกิดจาก การกินอยู่ที่เปลี่ยนแปลงไป มีอาหาร ของว่าง ของกินเล่น แบบในเมืองใหญ่ แพร่เข้าไปแล้ว ให้กินกันอยู่ ก็คงเป็นเพราะ พวกลูกหลาน เอาไปเผยแพร่ เอาไปฝาก เอาไปให้ใช้  ให้กิน โรคแบบ ในเมืองใหญ่ ก็แผ่เข้าไป เล่นงานชาวบ้าน คิดไหมครับว่า การมีชีวิตปัจจุบัน แบบในเมืองใหญ่ เป็นสิ่งที่น่าทำตามทั้งหมด?

แต่ถ้าหากชื่นชอบดื่มนม จนเลิกไม่ได้ ก็คงต้องแล้วแต่ท่านละครับ ผมจะลอง เอาบทความต่างๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ ชวนให้คิด อาจจะเห็นภาพอะไร หรือคิดอะไรได้เพิ่มเติมบ้าง

ผมขอนำข้อมูล ซึ่งผมขอปรุงบ้าง แต่งบ้าง ปรับบ้าง จาก www.ladytip.com เรื่อง “นม...มัจจุราชเงียบ” ผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นข้อความ และแนวคิดของคุณหมอบรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ไม่แน่ใจครับ หากผิดก็ต้องขอโทษครับ

ใครๆ ก็แนะนำให้ดื่มนม นมมีประโยชน์ ต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นความจริง สำหรับคนเรา ในสมัยหลังสงครามโลก ครั้งที่ ๒ เพราะตอนนั้น ข้าวของทุกอย่าง แพงหมด ขาดแคลนอาหารการกิน คนที่มีเงินเท่านั้น จึงจะได้กินดีอยู่ดี  ทำให้มีสุขภาพดีกว่า

คนที่ไม่ค่อยมีอะไรจะกิน ก็จะขาดอาหาร ขาดโปรตีน แคลเซียม และสารอาหารอื่นๆ ขาดไปทั้งหมดที่จำเป็นต่อร่างกาย ในสมัยสงคราม แค่ให้อยู่รอด ผมก็คิดว่า ยากเย็น แสนเข็ญ ขาดแคลนไปเสียทุกอย่าง อาหารการกิน หวังว่าจะครบถ้วน คงเป็นไปได้ยาก สำหรับคนส่วนใหญ่

คนรุ่นปู่ย่า ตายาย ตอนเล็กๆ ท่านก็กินนมแม่กันทุกคน ซึ่งเดี๋ยวนี้ทุกคน ก็จะได้ยินจากทางสาธารณสุขของไทย  สนับสนุนและรณรงค์ ให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตั้งแต่แรกคลอด ไปจนถึง อย่างน้อยก็ ๖ เดือน และยังบอกว่า ถ้าเป็นไปได้ ก็กินต่อไปจนถึง ขวบ หรือขวบครึ่ง ก็จะดีมาก นานได้เท่าไหร่ ก็เอาแค่นั้น ที่จำเป็นคือ ๖ เดือนแรก ตอนที่ปู่ย่า ตายาย (ตอนนี้ ก็มีอายุเกินกว่า ๖๐, ๗๐ ทั้งนั้น)  ผมแน่ใจว่า ไม่มีใครกินนมวัว แต่ดูซิครับ พวกท่านก็แข็งแรง รูปร่างดี ไม่อ้วน ไม่ค่อยป่วยเสียด้วย อายุก็ยืน

แต่ในสมัยนี้ ในเมืองหลวง เมืองใหญ่ที่มีคนมากๆ ลองคิดถึงในสังคมเมือง ที่่มีร้านค้าแบบ 7-11 อยู่ทั่วๆ ไป คนส่วนมาก จะอ้วน มีภาวะบริโภคเกิน ซะมากกว่า และที่สำคัญ แร่ธาตุ สารอาหาร ที่คนส่วนใหญ่กลุ่มนี้ได้มา ส่วนหนึ่ง ก็มาจากการดื่มนม นั่นเอง

ดื่มนม เราก็จะได้ไขมัน โปรตีน และแคลเซียม ไขมันในนม เป็นไขมันจากสัตว์ ซึ่งอุดมไปด้วย โคเลสเตอรอล ที่เป็นไขมันอิ่มตัว เราอุตส่าห์ หนีน้ำมันหมู แล้วยังมา กินนมเอาโคเลสเตอรอล เข้าไปอีกหรือ หนีเสือปะจรเข้กระมัง?

คนที่วิจัยเรื่องนี้ ก็คือ The Milk Industry Foundation บอกว่าคนกินนมแล้ว เสี่ยงต่อโรคอ้วน เพราะไขมันในนม  บริษัทนม จึงแก้ปัญหา ด้วยการทำนมพร่องไขมัน ซึ่งก็ยังมีไขมันเหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่ง จากข้อสังเกตที่ว่า คนอเมริกัน กินนมเยอะที่สุด มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินตามมา ผู้ชายอ้วน ๒๗% ผู้หญิง ๔๖% ในขณะที่ สถิติเรื่องอ้วน ในตอนนี้ คนไทยมีแค่ประมาณ ๒๐% ทั้งหญิงและชาย

สถิติโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง ในคนอเมริกัน ล้วนแล้วแต่ สูงกว่าคนไทยทั้งสิ้น น่าแปลก ที่ฝรั่งที่มาสอนให้เรา ดื่มนมป้องกันกระดูกพรุน กลับมีอัตราเสี่ยง ต่อโรคกระดูกพรุนมากกว่าเราเกือบ ๙ เท่า !

การรณรงค์ ให้ดื่มนม เริ่มสมัยหลังสงครามโลกใหม่ๆ สมัยนั้น เป็นสมัย ที่คนไทยยังขาดอาหารอยู่ มีภาวะทุโภชนาการ อยู่ทั่วไป แต่ปัจจุบัน สถานการณ์ ได้เปลี่ยนไป ในทางตรงกันข้าม คนไทย มีอาหารการกิน อย่างเหลือเฟือ จนโรคอ้วนถามหากันเป็นแถว การมาส่งเสริมให้ดื่มนม กลับเป็นการซ้ำเติม โรคอ้วน ให้แย่ลงไปอีก

การที่คนเรามีอาหารการกินเป็นปกติ ข้าว ปลาอาหารพร้อม ผลไม้พร้อม การกินนม เป็นการกินที่เกินกว่า ร่างกายต้องการหรือเปล่า? จึงอ้วนกันมาก  ผมคิดว่า หากจะบอกว่าการดื่มนมจำเป็น น่าจะมองลึกลงไปให้ละเอียด มากกว่านี้ ไม่ควรจะใช้เหวี่ยงแห ครอบคลุมไปทั่วทั้งหมด ซึ่งมันง่าย แต่ผลที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องไล่ตามแก้  ซึ่งอาจจะเป็นผลดีต่อ พวกขายหรือให้บริการ อะไรที่เกี่ยวกับการลดความอ้วน ซึ่งเราเองก็ได้ยินเรื่องเศร้า เกี่ยวกับผู้คนที่พยายาม ลดความอ้วน และเสียชีวิตไป ก็แยะ

มีการวิจัยว่า นมวัว เป็นสาเหตุ ของโรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจหลอดเลือด แม้ว่าคุณจะดื่ม นมพร่องไขมัน แล้วก็ตาม แต่คำว่าพร่องไขมันในที่นี้ เป็นการเล่นคำ เพราะพร่องไขมันก็คือยังมีไขมันอยู่ แต่น้อยกว่าปกติเท่านั้นเอง

มีการนำ เอาเด็กนักเรียน โรงเรียนนานาชาติ ในจังหวัดเชียงใหม่ มาตรวจหา ระดับไขมันในเลือดดู พบว่าเด็กเหล่านี้ ที่ถูกเลี้ยงดู ให้กินนมต่างน้ำ มีไขมันสูง ในเด็กอายุต่ำกว่า ๖ ปีสูงถึง ๒๕% อายุ ๖ -๑๕ ปีมีถึง ๗๐% และระดับไขมัน จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ

นั่นหมายความว่า เด็กเหล่านี้ เมื่อเริ่มเข้าสู่ วัยหนุ่มสาว เขาก็มีปัญหา อ้วน ไขมันอุดตัน เตรียมการไว้ตั้งแต่เด็ก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมอ่านมาถึงช่วงนี้ ก็คิดว่า เอ๊ะ ควรจะมีมูลความจริงบ้าง เพราะเป็นบทความ มีการอ้างอิงผลวิจัย และสถิติต่างๆ ซึ่งตัวเลข ดูน่ากลัวจัง

นอกจากนี้ยังพูดถึงความเสี่ยงอื่นๆ ด้วย   เช่น นมวัวเพิ่ม ความเสี่ยง ต่อภูมิแพ้ - ไซนัสอักเสบ – หอบหืด  ดื่มนมเสี่ยง ต่อการเกิดนิ่ว ในถุงน้ำดี  ดื่มนม  มะเร็งอาจถามหา

ใน Website มีรายละเอียด อยู่อีกมาก ผมคิดว่าอาจจะหนักไป ก็เลยไม่ได้ เอามาให้ดูทั้งหมด  เอาแต่หัวข้อมาให้  ตามไปดูตัวจริงก็ได้นะครับ ถ้าสนใจ ก็ตามไปดู อาศัยรายละเอียด ข้างบนนะครับ

นมแม่มีประโยชน์ และดีที่สุดสำหรับคน นมวัวมีประโยชน์ และดีที่สุดสำหรับวัว  การเข้ามา ของผลิตภัณฑ์นม ทำให้แม่ ลดการให้นมลูกเอง เหลือเพียง ๔ % กรณีที่แม่ ต้องออกไปทำงาน นอกบ้าน แม่สามารถ กลับมาป้อนนมได้ ในตอนเย็นและค่ำ หลังจากนั้นก็ปั๊มน้ำนมเก็บใส่ตู้เย็นไว้ เพื่อให้คนที่บ้าน ใช้ป้อนเลี้ยงเด็กในตอน กลางวัน การให้นมแม่ ประหยัดเงินได้มาก เด็กที่เติบโตด้วยนมแม่จะอารมณ์ดี มีภูมิต้านทานดี ไม่เจ็บป่วยง่าย

นมวัว มีกรณีให้เลือก สถานเดียว คือกรณี ที่แม่ไม่มีน้ำนม พอให้ลูก ก็อาจพิจารณา ให้นมวัวที่ปรับสภาพ ให้ใกล้เคียงนมแม่ ให้ดื่มจนครบ ๑ ขวบแล้วให้เลิกเสียโดยไว และให้กินอาหารอย่างอื่นแทน อีกทางหนึ่งคือ ให้เลี้ยงลูกด้วยนมถั่วเหลือง โดยเฉพาะพ่อแม่ ที่มีประวัติเป็นภูมิแพ้ ลูกจะมีโอกาสเกิด ภูมิแพ้มากขึ้นถ้าดื่มนมวัว

ส่วนเด็กเล็ก และเด็กโต กินอาหารธรรมชาติ โดยไม่ต้องดื่มนม แต่ถ้ายังไม่สบายใจ พ่อแม่ก็อาจจะให้ลูก ดื่มนมถั่วเหลือง ซึ่งก็มีโปรตีน ใกล้เคียงกับนมวัว

ถ้าการดื่มนมวัว มีรายงาน มีผลวิจัย ว่ามีผลเสีย มีหมอออกมาเตือน ว่าไม่ควรกิน ก็น่าจะลองคิด วิเคราะห์ พิจารณาดูว่า นมวัวมีความจำเป็นอะไร เราต้องการอะไรจากนมวัว หากจะต้องการ ธาตุและสารอาหารในนมวัว ผมว่าเรามีทางเลือกอยู่มากมาย

ถ้าจะเปรียบเทียบ แหล่งโปรตีนแล้ว กินหมู กินไก่ กินปลา ก็ได้โปรตีน (ถ้าจะให้ดี เป็นปลาจะดีที่สุด)  ทั้งคุณภาพ และปริมาณ

นมวัว ๑ แก้ว ให้โปรตีน ๘.๕ กรัม
นมถั่วเหลือง ๑ แก้ว ให้โปรตีน ๗ กรัม

เนื้อไก่ส่วนอก ๑ ชิ้น (๑๐๐ กรัม)   ให้โปรตีน ๑๑ กรัม
น่องไก่ ๑ ชิ้น ให้โปรตีน ๑๘.๘  กรัม
ปลา (๑ ชิ้น) ๑๐๐ กรัม ให้โปรตีน ๒๑ กรัม
หมูเนื้อแดง ๑๐๐ กรัม ให้โปรตีน ๑๔ กรัม

ไข่ไก่ ๑ ฟอง ให้โปรตีน ๑๐ กรัม
เต้าหู้ ๑๐๐ กรัม ให้โปรตีน ๑๓.๓ กรัม

ข้าวกล้อง ๒ ทัพพี ให้โปรตีน ๑๕.๖ กรัม

หญิงมีครรภ์ ต้องการพลังงาน(คาร์โบไฮเดรต - แคลอรี่) โปรตีน กรดไขมันจำเป็น แคลเซียม ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก วิตามินต่างๆ แต่คุณแม่ต้องรู้ว่าไม่ต้องการสารเหล่านี้เป็น ๒ เท่า เพราะเด็กในครรภ์ ตัวเล็กกว่าแม่ ๑๕ เท่า ถ้าขืนกินเข้าไป แบบยัดทะนาน ก็รังแต่จะไปพอกพูนที่ตัวแม่ การดื่มนมอย่างมากมาย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ แม่อ้วนหลังคลอด

แคลอรี (พลังงาน) ที่ดี ต้องเป็น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ซึ่งจะใช้เป็น เรี่ยวแรง ได้อย่างหมดจด
โปรตีน ถ้ากินไก่ ไข่ หมู กุ้ง ปลา ก็ได้โปรตีน เพียงพอ การดื่ม นมถั่วเหลือง และกินข้าวกล้อง ก็ให้โปรตีนด้วย
แคลเซียม อาหารไทย มีแคลเซียมมากมาย ไม่ต้องพึ่งนมวัว เช่น กุ้งแห้ง กุ้งฝอย ปลากรอบ มีปริมาณแคลเซียม สูงกว่านม ๑๓ - ๒๓ เท่า ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ กินเต้าหู้วันละ ๑ แผ่น กับกุ้งชุบแป้งทอด วันละ ๑ ชิ้น เท่ากับ ได้ดื่มนมวันละ ๒ แก้ว
ธาตุเหล็ก ใช้สร้างเม็ดเลือดแดง เราได้รับ จากเนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง ถั่วงอก ผักบุ้ง ผักใบเขียว
กรดโฟลิก ช่วยสร้าง เม็ดเลือดแดง และสำคัญ ในการพัฒนาระบบประสาท มีมากในผักใบเขียว แคนตาลูป แครอท ตับ ไข่แดง ฟักทอง ถั่วต่างๆ
วิตามิน เกลือแร่ และสารผัก ช่วยจรรโลง ขบวนการเคมี ทั้งในแม่และทารก ช่วยเสริม ภูมิต้านทาน เป็นฮอร์โมนเสริม สำหรับบำรุงครรภ์ มีในผักสด ผลไม้ต่างๆ ต้องรู้จักกินผัก ให้หลากหลาย ผักพื้นบ้าน เครื่องแกง เครื่องสมุนไพรต่างๆ
กรดไขมันจำเป็น ช่วยเสริมระบบฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ให้ทำงานดี ทำให้ผิวพรรณผ่องใส มีอยู่ในน้ำมันปลา น้ำมันดอกพริมโรส น้ำมันเมล็ด ฝ้าย

ถ้าคุณแม่ ต้องการดื่มนม ให้ดื่มนมถั่วเหลือง พร้อมโรยงาดำคั่ว วันละ ๑-๒ แก้ว ก็จะได้ทั้งโปรตีน และแคลเซียม เพียบพร้อม
สำหรับสตรีวัยทอง และผู้สูงอายุ ที่เสี่ยงต่อโรคกระดูกผุ เป็นจุดขาย ของผลิตภัณฑ์นมแคลเซียมสูง สำหรับอาหารไทยเรา มีแคลเซียม อยู่มากมายดังเช่น ปลาร้าผง กุ้งแห้งตัวเล็ก กะปิเคย งาดำคั่ว กุ้งฝอยน้ำจืด ถั่วแดงหลวง ใบชะพลู มะขามฝักสด แคยอดอ่อน ผักกระเฉด สะเดายอดอ่อน เม็ดบัวดิบ ถั่วเน่าแห้ง เต้าหู้ขาวอ่อน ผักคะน้า ถั่วเหลือง ปลาไส้ตัน จะเห็นได้ว่า ถ้าขยันกินอาหารไทยๆ จะไม่ขาดแคลเซียม ทั้งคนทั่วไป และผู้สูงอายุ

เลิกดื่มนม(วัว) เสียแต่วันนี้ ร่างกายแข็งแรง ไร้โรคภัยแน่นอน

สิ่งที่มีอยู่ ในบทความนี้ แสดงถึงความเสี่ยงภัย ที่อาจเกิดจากการดื่มนม และที่สำคัญ ได้บอกทางเลือกไว้ให้แล้ว ว่าถ้าไม่กินนมวัว  จะกินอะไร   เรากินนมวัว เพื่ออะไรหรือครับ ผมเองไม่รู้ เขาบอกแต่ว่า กินแล้วดี กินแล้วแข็งแรง เท่านั้น คิดและเลือกเอง นะครับ

ว พชร
ข้อมูล และฝอยต่างๆ ที่ผมเขียน และเรียบเรียงนี้ ส่วนใหญ่ ผมประมวล และ รวบรวมมาจากบทความของ คุณหมอบรรจบ ชุณหสวัสดิกุล (http://www.balavi.com)  และ ข้อมูลจาก Website อื่นๆ ที่พูดถึงอันตราย ที่อาจจะเกิดจากนมวัว ความเห็น และข้อคิด ผมจำไม่ได้ว่ามาจากไหน และเป็นของท่านผู้ใด ขอขอบคุณอย่างสูง สำหรับข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. เลิกกินนมวัวเลยค่ะ

    อิอิ

    ตอบลบ
  2. ลูกคนไม่ใช่ลูกวัว มีผลประโยชน์ และเม็ดเงินมหาศาล และความเชื่อผิดๆ ที่ได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง นมแม่ดีที่สุด คิดมานานแล้ว กับ นมวัวเนี๊ยะ

    ตอบลบ